BigBang:Kiss!!...[Choi Seung Hyun]
▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫
Choi Seung Hyun : ปากเล็กๆ ของจียงกำลังครอบครองซึงฮยอนน้อยของผมอยู่ ใบหน้าเบ้ของจียงอาบด้วยคราบน้ำตาทั้งสองแก้ม ผมเม้มปากแน่นกลั้นเสียงครางไว้ในลำคอ
ขอโทษ!! ผมอยากบอกกับคนตัวเล็กตรงหน้า อยากประคองขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน บอกความในใจที่กำลังจะระเบิดอยู่ตอนนี้ให้นายให้นายฟัง...
“อา...จียง อืม” แต่ผมไม่ได้พูดถ้อยคำเหล่านั้น เอาแต่ส่งเสียงครางเพียงเพราะตัณหาที่ถูกบรรเทาลง แต่ผมทำให้จียงร้องไห้อีกแล้ว ผมเฝ้าคร่ำครวญในใจว่า...
ขอโทษนะจียง...ฉันรักนาย!!
“...!!!” ผมปลดปล่อยในปากของจียง ร่างเล็กๆของเขากระตุกถอยห่างและคายลูกๆของผมออกมาหมดเลย T^T ใบหน้าแดงก่ำเปรอะเปื้อนน้ำตา ริมฝีปากแดงพยายามพ่นน้ำลายออกมาให้หมด ผมพิงร่างบนกำแพงมองจียงที่ทรดนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงความเห็นใจผมเข้ามาแทนที่ความสุขที่ได้รับเมื่อครู่ นี่เป็นบทเรียนที่จะทำให้จียงรู้สึกถึงความรักของผม มันรุนแรงและมากพอที่จะฆ่าเขาให้ตายได้ถ้าจียงจะหนีจากผมไป!! ผมเก็บลูกชายเข้าฝักตามเดิม แล้วพยุงร่างจียงขึ้นนั่งบนฝาชักโครก สองตาจับจ้องใบหน้าใสๆ นิ่ง สองมือก็เริ่มปลดกระดุมกางเกงจียงออกทีละเม็ด จียงนั่งนิ่งมาก ผมรู้!! ว่าเขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลือมาขัดขืนผมอีกแล้วแต่...
ขอโทษนะจียง ทั้งหมดเพราะฉันรักนายมากเกินไป ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ขอโทษจริงๆ ที่ตัดใจจากนายไม่ได้
“อย่าร้องนะ...” ผมบอกเขา เสียงตัวเองแหบแห้งมาก แต่จียงคงไม่รับฟังเพราะคนที่ทำให้เขาต้องร้องไห้คือผมเอง จียงก้มมองแค่มือของตัวเองไม่ยอมสบตา หรือแม้แต่อาละวาดชกต่อยผมอีก แม้ตอนนี้ผมจะก้มลงครอบครองจียงน้อยแล้วก็ตามเสียงสะอื้นยังคงหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากบางนั้น ผมหลับตาตั้งสมาธิเพื่อปรนเปรอให้คนตรงหน้า เสียงร้องไห้ยิ่งหนักขึ้นกว่าเก่า ผมถอนปากออกมาใช้หลังมือเช็ดปากตัวเองอย่างหงุดหงิด หงุดหงิดที่ทำให้คนที่รักต้องร้องไห้ ต้องเสียน้ำตา
ขอโทษนะจียง!! ผมได้แต่เอ่ยคำพวกนี้ในใจ เพราะรู้ว่าจียงคงไม่ยอมรับแน่ถ้ามันออกจากปากผม
ขอโทษที่รักนาย...
“หยุดร้องเถอะ!” ผมเสียงดังกว่าที่ตั้งใจ ทั้งที่จะเอ่ยประโยคนี้เพื่อปลอบเขาแท้ๆ เมื่อหลุดปากออกไปแล้วก็ได้แต่หงุดหงิดตัวเอง ผมขมวดคิ้วแน่น “หยุดเถอะนะ ฉันจะพานายกลับบ้าน...” ผมคุกเข่าลงตามเดิมติดกระดุมกางเกงเข้าที่ก็ดึงแขนเรียวจียงที่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับตามผม
“มาสิ! หรือนายไม่อยากกลับ” ผมเผลอขึ้นเสียงอีกแล้ว “จียง...” ผมทอดเสียงอ่อนพ่นลมหายใจแรงๆ หงุดหงิดตัวเองอย่างที่สุด ก้มลงช้อนร่างของจียงขึ้นแล้วอุ้มเขาออกจากห้องน้ำที่แสนแคบนั่น จียงไม่ขัดขืน ยิ่งจียงที่มองเหม่อออกไปแสนไกล ภาพจียงกระตุกหัวใจผมให้เจ็บแปลบ เหมือนใจดวงนี้มันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ขอโทษจียง...ผมเอ่ยถ้อยคำนั้นซ้ำๆ ในใจ ซบใบหน้าลงกับกลุ่มผมนุ่มของจียงหยดน้ำตาไม่รู้รินไหลออกมาเมื่อใด รู้แต่ว่าเกลียดตัวเอง รู้แต่ว่ารักเขาคนนี้มากเหลือเกิน มากจนไม่อยากยกเขาให้ใครทั้งนั้น! ผมโบกแท็กซี่ทั้งที่มือไม่ว่าง แท็กซี่พาพวกผมมาจนถึงบ้านตระกูลยาง ผมอุ้มจียงเข้าทางประตูหลังจียงหลับสนิทตั้งแต่อยู่บนรถ เขาไม่ยอมพูด ด่า หรือส่งเสียงใดๆ ออกมาเลย ผมกลัว กลัวว่าจียงจะไม่มีผมในใจ แม้ตอนนี้เขาจะเกลียดผมก็ยอม อย่างน้อยนั่นเป็นความรู้สึกที่มีให้กับผม
“นาย...” ผมปิดปากลงเมื่อคิดว่าพูดอะไรไปเขาคงไม่ฟัง ผมนั่งลงข้างๆร่างเล็กโอบกอดเขาแนบแน่นพยายามสื่อความรู้สึกท่วมท้นให้เขา สองมือประคองใบหน้าของจียงให้หันมาสบตา ดวงตาที่ว่างเปล่าทำผมใจหาย ดวงตาสีนิลตรงหน้ามองสบกับผมในที่สุด
ได้โปรด...แววตาอ้อนวอนของผมจ้องลึกเข้าไป ในดวงตาที่มืดมิดไร้แสงสดใส ผมลดใบหน้าลงจนชิด กดริมฝีปากสั่นๆ ของตัวเองประกบแนบกับริมฝีปากแดงบดคลึงเบาๆ เรียกชื่อจียงพร้อมๆ กับแทะเล็มปากนิ่มตรงหน้า
ฉันรักนาย...ตอนนี้ผมกำลังบอกเขาด้วยริมฝีปาก บอกเขาด้วยจูบที่ลึกซึ้งอ่อนหวาน ผมไม่เคยจูบใครอย่างนี้มาก่อน แม้จียงจะไม่ขัดขืนแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับกลับมา ผมสอดลิ้นลึกเข้าไป เกี่ยวกระหวัดลิ้นแข็งทื่อของเขา อยากสะกิดให้เขารับรู้และตอบสนอง ไม่ว่ายอมรับหรือปฏิเสธก็ตาม
“...จี” ผมครางในลำคอ “จียง...” เสียงแหบพร่าเอ่ยชื่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ถอนริมฝีปากและกดจูบหลายต่อหลายครั้งเนิ่นนาน แม้จะหยุดตัวเองได้ แต่หัวใจผมหยุดไม่ได้ มันร่ำร้องจะรักแต่ชายตรงหน้าคนนี้เท่านั้น
รักนาย ควอน จียง...
▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫
ผมปล่อยจียงให้หลับไปในห้องของเขา ส่วนตัวเองเดินกลับมาที่ห้องที่อยู่ทิศตรงข้าม ผมทิ้งร่างอ่อนแรงลงบนเตียง พอหลับตาก็เห็นใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยหยาดน้ำตาของ จียง ใจผมกระตุกเหมือนจะขาด เจ็บหนึบทุกครั้งที่นึกถึงเสียงสะอื้น ผมรู้คนเข้มแข็งอย่างจียงคงไม่เคยร้องไห้แบบนี้บ่อยนัก และผมก็ทำให้เขาต้องร้องไห้ หึหึ ผมเกลียดตัวเองที่เป็นคนนั้น
“ไอ้บ้า ซึงฮยอนเอ้ย!!!” ผมทึ้งผมหัวตัวเองแรงๆ หอบหายใจหนักยกสองมือขึ้นปิดหน้าเพื่อระงับความเสียใจ
“ขอโทษ!! จียงฉันขอโทษ” ผมตะโกนลั่น แม้บอกเขาไม่ได้ก็ขอให้ได้บอกกับตัวเองก็แล้วกัน...เสียงโทรศัพท์ปลุกผมออกจากห้วงทุกข์ได้ชั่วคราว สายเรียกเข้าของมักเน่ทำให้ผมอยากกดตัดสาย แต่มือทรยศกลับกดรับไปแล้ว
[พี่ซึงฮยอน!...อยู่ไหนแล้วฮะ พวกเรารอกันอยู่น้า] มักเน่ส่งเสียงแง้วๆ มาตามสาย เสียงเพลงยังดังอยู่แปลว่าพวกที่เหลือยังสถิตที่คาราโอเกะเหมือนเดิม
“พี่กลับบ้านแล้ว” ผมบอกน้องเล็กเหนื่อยๆ “พี่พาจียงกลับมาด้วย ฝากบอกแฟนจียงด้วยแล้วกัน”
[ หา!! อะไรนะครับ กลับไปด้วยกันแล้วเหรอ...] มักเน่ทำเสียงตกใจ มันน่าตกใจตรงไหนที่กลับด้วยกันเนี่ย
“อืม...ฝากด้วยแล้วกันนะ” ผมตัดสายทันที ไม่มีอารมณ์พูดต่อแล้ว หนังตาที่หนักอึ้งความง่วงงุนชุดกระชากผมดำดิ่งสู่ความมืดทันที
มืดจนมองไม่เห็นอะไรซักอย่าง แต่กลับได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของจียง ดังแว่วมาจากทางหนึ่งตรงหน้า
“จียง...นายอย่าร้องฉันขอโทษ!!” ผมตะโกนออกไปอย่างไร้จุดหมาย รอบด้านมืดสนิทมองไม่เห็นว่าจียงอยู่ตรงไหนแน่ ได้ยินแค่เสียงที่ดังก้องไปทั่วหัวของผม ขาที่ก้าวตรงไปข้างหน้าเงอะงะกว่าที่ตั้งใจ ทั้งที่อยากวิ่งไปหา อยากกอดปลอบเอาไว้แต่กลับมองไม่เห็นจียง!! ความกลัวแล่นเข้ามาเกาะกุมไปทั่วร่าง
“จียง!!!” ผมร้องตะโกนเสียงดังลั่น “นายอยู่ไหน จียง” ผมเดินสะเปะสะปะ (เขียนงี้เปล่าไม่ค่อยได้ใช่เลยไม่แน่ใจ)ไปทั่ว จนในที่สุดร่างจียงที่นั่งบนพื้นที่มืดมิดก็ปรากฏตรงหน้า ผมดีใจวิ่งเข้าไปหาและรั้งร่างบางเข้ามากอด สูดดมกลิ่นกายที่คิดถึงเข้าเต็มปอด
“ชเว ซึง ฮยอน...” เสียงจียงแหบแห้งเมื่อเรียกชื่อผม “ชเว ซึง ฮยอน!!” จียงยังเรียกซ้ำๆ ผมเชยคงมนต์ขึ้นจนเรามองเห็นกันและกันได้ชัดเจน
“ฉัน เ ก ลี ย ด นาย...” ถ้อยคำบาดลึกเข้าไปช้าๆ จนเลือดหลั่งรินออกจากแผลที่มีดปักคาอยู่ ผมมองหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองช็อคที่เห็นว่าเลือดของผมเปื้อนมือจียงที่ก้าวถอยห่างออกไปพร้อมรอยยิ้มสาแก่ใจ
“หึหึ เกลียด นาย!!” เสียงจียงตะโกนใส่หน้าผม แผ่นอกผมนองไปด้วยเลือดรู้สึกอึดอัด จนหายใจไม่ออก
ไม่!!!
จียง!! ไม่อย่าไป...
ผมพยายามเอื้อมมือออกไปร่างที่ลอยห่ายออกไป จียงที่ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาปราฏรอยยิ้มสาใจ จ้องมองผมที่ค่อยๆ ล้มลงจมกองเลือดตัวเอง
“ม่ายยยยยย!!!” ผมแหกปากลั่น เด้งตัวออกจากที่นอนเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า หอบหายใจหนักเหมือนเพิ่งไปวิ่งทางไกลมาแต่ความฝันกับถ้อยคำที่ผมหวาดกลัวเหมือนจริงจนไม่กล้าคิดต่อ ผมมัวแต่จมอยู่กับความคิดจนไม่ทันเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องของผมด้วย ร่างใครบางคนที่หางตาทำให้ผมต้องหันไปมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนั้น
“เป็นไรไป...” ทง ยอง แบ เอ่ยถามผมทั้งที่ยืนกอดอกมองอยู่ตรงหน้าประตู สายตาสำรวจตรวจจับผมเหมือนเครื่องจับเท็จไม่ผิด ยองแบขนาดนายตาตี่ยังยังจะพยายามถลึงตามมองฉันอีกนะ หึหึ
“เปล่า!...กลับมามาหมดแล้วเหรอ” ผมถาม เพราะไม่อยากอธิบายให้มากความ ยองแบเดินไปที่เก้าแล้วลากมาตรงหน้า นั่งลงจ้องตาผมเขม็ง เหมือนกำลังสอบสวนคนร้ายยังงั้นเลยครับ ผมซึ่งมีความผิดจริง(กับจียง) เลยแอบสั่นเหมือนกันหลบเลี่ยงสายตาลงพื้น
“จียงเป็นอะไร นายทำอะไรหมอนั่นรือเปล่า!” ยองแบพยายามคาดคั้ดผมอีก หมอนี่มันจะให้เวลาผมเตรียมใจหน่อยไม่ได้รึไงฟระ เพิ่งตื่นนอน แถมฝันแบบนั้นอีก ผมยกมือขึ้ยลูบหน้า ถอนใจออกมาแรงๆ เพื่อระบายความอึดอัดในใจ
“นายอย่ามาถามฉันเลย ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ตอบว่ะ” ผมพูดไม่ยอมมองหน้ายองแบ (หนีความผิดอ่ะครับ)
“งั้นเหรอ...ตามใจนายแล้วกัน อ้อ...” ยองยืนขึ้นแล้วมองผมที่นั่งนิ่งเหมือนหุ่น
“คุณยางเรียกพบน่ะ บอกว่าให้ไปหาหลังมื้อเย็น” ผมพยักหน้ารับทราบ ยองจึงค่อยเดินออกไป เมื่อมองตามก็เห็นมักเน่แวบๆ ที่หน้าประตูแต่เจ้ายองแบที่ไวกว่าคว้าคอมักเน่มากอดแล้วลากไปอย่างนุ่มนวล ขอย้ำครับ นุ่มนวล! ผมยิ้มตามภาพนั้นและอดอิจฉายองแบไม่ได้เลย
มักเน่ นายอย่าเกลียดยองแบ เหมือนที่จียงเกลียดฮยองเลยนะ...ผมบอกใกเน่ในใจ ทั้งสองหายไปจากสายตาผมแล้ว แต่ร่างขงแดซองกลับผลุบเข้ามาแทน
“พี่!!” แดซองทำท่าทางตื่นเต้น “วันนี้คุณยางเรียกพบพี่เหรอ...” เสียงแดซองเบาและกระซิบกระซาบเหมือนเป็นความลับร้อยล้านงั้นแหละ
“อือ...ยองแบว่างั้นเหมือนกัน นายมีไรป่าว” มองท่าเจ้าแดซองแล้วอดสงสัยไม่ได้ วันนี้หมอนี่มันลุกลนชอบกลแฮะ
“พี่ระวังนะ!!” เสียงแดซองออกอาการว่าตื่นเต้นมาก
“ระวังอะไรของนายแดซอง” ผมขมวดคิ้วมองแดซองที่นั่งลงตรงหน้าไม่เข้าใจเอาซะเลย มองตามใหน้าแดซองที่ยื่นเข้ามาใกล้หูผม
“ระวังคุณยางอ่ะดิ” เสียงเบากระซิบที่ข้างหู อะไรของมัน...ผมคิดว่าแดซองมาโหมดไร้สาระอีกแล้ว ผมผลักหัวเจ้าแดซองออกห่าง
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ว่านายทำอาหารเย็นยังเนี่ย!” ท้องที่เริ่มอุทรณ์ของผมทำให้นึกได้เอ่ยถามพ่อครัวประจำบ้านออกไป แดซองค่อยๆ ถอยห่างทีละนิด
“แหะๆ พี่ครับผมว่ากำลังจะไปทำ...” แดซองพูดจบก็วิ่งปรู๊ดออกไปทันที ผมถอนใจขำๆ ช่วงนี้แดซองมีอาการพิลึกๆ สงสัยจะเครียดเรื่องเรียน อืมไว้พี่ชายจะพาออกไป ดีย์ ด้วยละกันนะแดซอง
▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫
ผมเดินตามกลิ่นอาหารมาถึงห้องครัวทุกคนนั่งล้อมโต๊ะ กันพร้อมหน้า รวมถึงควอนจียงที่รักของผมด้วย ผมทรุดนั่งข้างๆจียงแย่งที่เจ้ามักเน่ที่ชอบยึดจียงเอาไว้อ้อน หึหึ ฝันไปก่อนนะมักเน่ วันนี้เป็นวันของพี่ใหญ่ว้อย ผมยักคิ้วล้อเลียนมักเน่ที่มานั่งแย่งกับผมไม่ทัน มักเน่เดินหน้าบูดไปนั่งข้างยองแบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แดซองที่ทยอยยกอาหารมาวางแล้วนั่งลงที่หัวโต๊ะเหมือนเช่นเคย
“กินแล้วละฮะ...”เสียงใสของมักเน่ดังกว่าเพื่อนจ้วงตะเกียบลงก่อนใคร อย่างเนี้ยแหละวัยกำลังโต หึหึ แต่ช้ากว่าผม! ที่จ้วงตะเกียบไปแย่งหมูชุบแป้งทอดชิ้นที่ใหญที่สุดมาแล้ว ฮ่าๆ นั่นมักเน่หน้าบูดอีกแล้ว
“พี่ซึงอ้า!!” มักเน่งอนหันไปคีบกับอย่างอื่นแทน ส่วนยองแบหันมาส่งสายตาเขม่นใส่ผมที่ลอยหน้าเคี้ยวกับที่แย่งน้องเล็กมาอย่างเอร็ดอร่อย แดซองไม่สนใครเหมือนกันนั่งเคี้ยวอาหารฝีมือตัวเอง(ล้วนๆ)อย่างเป็นสุข ยกเว้นคนๆ เดียวยังนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ผมแม้รู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่มา แต่ผมไม่กล้าเหลือบตามองด้วยซ้ำ ด้วยเพราะความผิดมันติดแน่นอยู่ในใจ
“พี่จียงไม่กินเหรอฮะ หรือกับข้าวไม่ถูกปาก!” แดซองพ่อครัวประบ้านเอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็น
“.................” จียงนั่งนิ่งเฉยราวกับเมื่อกี้ไม่มีเสียงใครดังขึ้น ทุกคนเริ่มหยุดการกินของตัวเองแล้วจ้องมองจียงนิ่ง สายตาเปี่ยมด้วยความสงสัย และทุกคนพร้อมใจที่จะส่งสายตามาถามผม!! เหงื่อแอบตก หรือพวกนี้มันจะแอบไปรู้อะไรมาฟระ สายตารู้ทันแบบนี้เนี่ย...
“อะอะไร...” ผมถามทั้งสามที่นั่งจ้องผมเหมือนผู้ต้องหาคดี้รายแรง
“พี่แกล้งอะไรพี่จีเนี่ย ดูดิไม่ยอมกินข้าวเลยอ่ะ” มักเน่พองแก้มใส่ผม และแดซองและยองแบพยักหน้าว่าเห็นด้วยกับคำถาม
“เปล่านี่” ผมแก้ตัวไว้ก่อน แอบเหลือบตาขึ้นมองคนข้างๆ ที่นั่งนิ่งเหมือนหุ่นยนต์ เมื่อสายตาจ้องจับผิดยังทำงานไม่เลิกผมเลยวางชามข้าวลงลุกขึ้นแล้วเอื้อมไปลากข้อมือจียงให้ลุกตาม ผมทำหน้าดุแล้วหันไปที่มองสามคนที่มองอยู่ก่อนอย่างลุ้นระทึก
“พวกนายเหลือกับข้าวไว้ให้ฉันกับจียงด้วยไม่งั้น...” ผมทำท่าปาดคอตัวเองเสร็จ ส่งตาเหี้ยมอีกนิด “ตายแน่”
▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น