Baby dont cry

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

BigBang: We belong together...[ Choi Seung Hyun]

BigBang: We belong together...[ Choi Seung Hyun]


▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫

Choi Seung Hyun: ผมวางถาดอาหารอย่างเบามือเพราะกลัวว่าคนที่นอนอยู่จะตื่นขึ้นมาโวยวายใส่ ผมมองสำรวจอาหารฝีมือตัวเองอย่างพอใจที่หน้าตามันออกมาดูดีมีสกุลกว่าที่คาดคิด อ้อ! รสชาติผมก็ว่าอร่อย(ของผม)อยู่เหมือนกันนะ ผมยิ้มกริ่มเป็นปลื้มกับฝีมือการทำอาหารตัวเองเสร็จก็เดินไปนั่งลงข้างๆ จียงที่หลับสนิทใบหน้าอิดโรยขอบตาคล้ำยิ่งเห็นเด่นชัดเมื่อมันปรากฏบนหน้าขาวใส ปลายนิ้วที่เอื้อมไปไล้เบาๆที่ร่องรอยของคราบน้ำตาทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าชั่วโมงก่อนหน้านี้.........................................................................................................................................................................................................................
.....................................................
..............................
.............
........
.....
...
.


“พวกนายเหลือกับข้าวไว้ให้ฉันกับจียงด้วยไม่งั้น...ตายแน่” นั่นเป็นคำพูดทิ้งท้ายของผมบนโต๊ะอาหารเย็นจากนั้นผมก็ถือวิสาสะลากข้อมือควอน จียงตามขึ้นมาด้วย และน่าแปลกที่หมอนั้นไม่มีท่าทีขัดขืน หรือจะทำใจยอมรับผมแล้ว!! ผมแอบหวังอยู่ลึกๆว่ามันจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน...ผมไม่สนแล้วว่าจียงจะอยู่ในอาการแบบไหนในที่สุดผมก็ลากคนตัวเล็กกว่ามาจนถึงห้องของเค้านั่นแหละ ผมผลักร่างของจียงเข้าไปก่อนแล้วค่อยเดินตามเข้าไปพร้อมล็อกประตูเผื่อเอาไว้...


“นายเป็นอะไรไป...” ผมถามออกไปเหมือนคนปัญญาอ่อนทั้งที่รู้อยู่แก่ใจนั่นแหละว่าจียงเป็นอะไร


เค้าคงเกลียดผม!


ใช่ผมมันเลวแต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ได้สัมผัสคนที่ผมรักก็แล้วกัน หึหึ ผมเดินไปสวมกอดจียงจากด้านหลังจียงไม่ได้ปัดออกหรือต่อต้าน จียงที่เป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ใจผมเจ็บปวด


“ได้โปรดจียงนายจะให้ฉันทำยังไง!!” ผมกระชากร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากัน จ้องมองใบหน้าจียงที่ยังเรียบสนิท เฉยชาราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจการกระทำของผมแม้แต่น้อย “จียง...” ผมครางชื่อของเขาออกอย่างหมดแรงส่งสายตาอ้อนวอนให้คนในอ้อมแขน


“นายไปจากชีวิตฉันได้มั้ย!” เสียงแผ่วเบาเปล่งออกมาจากริมฝีปากคนที่ผมสวมกอดไว้ เป็นประโยคที่ผมไม่อยากได้ยินเลยซักนิด “อย่าเข้าใกล้ฉันอีกได้รึเปล่า...” เสียงแหบพร่าของเค้ากระชากจิตใจผมให้จมดิ่งไปกับความปวดร้าว ผมส่ายศีรษะพยายามสะกดความเจ็บปวดเอาไว้


“ได้โปรดจียง...ฉันไปจากนายไม่ได้” ผมกระซิบตอบร่างบางในอ้อมกอดกระชับวงแขนแนบแน่น กลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปจริงๆ กลัวว่าจะทนเห็นสายตาของจียงที่มองผมอย่างเกลียดชัง


“ทำไม...” จียงครางเสียงแผ่ว “ฉันทำอะไรให้นาย” จียงถามคำถามที่ผมไม่เข้าใจ “ฉันแค่ไม่ชอบหน้านายแค่นั้น นายต้องแก้แค้นด้วยวิธีนี้เลยเหรอ” จียงยกมือขึ้นปิดหน้ากลั้นเสียงสะอื้นไห้จนตัวโยน ผมไม่กล้าคลายอ้อมกอดเลย เพราะไม่อยากเห็นใบหน้าที่เปียกชุ่มน้ำตาที่ผมเป็นคนทำให้มั้นเกิดขึ้น ทุกอย่างที่จียงเสียใจเป็นเพราะผมคนเดียว


“ไม่ใช่!!” ผมสั่นศีรษะปฏิเสธ “นายเข้าใจผิดทั้งหมด!...ฉัน” ผมตั้งใจจะพูดให้จบ อยากบอกความในใจออกมาเดี๋ยวนั้นเลย แต่จียงที่จู่ๆก็เริ่มกระชากตัวเองออกจากอ้อมกอดของผมทำให้เก็บกลืนคำพูดนั้นกลับเข้าไป

“ปล่อยยยย!!” จียงตะโกนเสียงลั่น เพราะหยาดน้ำอุ่นๆ ที่หยดลงบนแขนทำให้เรี่ยวแรงที่จะรั้งร่างนั้นเอาไว้ในอ้อมกอดต้องคลายออกในที่สุด จียงหันมาปล่อยหมัดใส่ใบหน้าผม ความเจ็บแค่นี้คงเทียบไม่ได้กับความเจ็บที่ใจของเค้าเลย ผมปล่อยให้จียงอาละวาดใส่ผมเต็มที่หมอนั่นทั้งต่อยทุบตีร่างกายและผลักจนผมถอยไปติดประตู จียงจึงได้ยอมสงบลงร่างบางหอบเหนื่อยพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ แต่ผมเฝ้ามองใบหน้าจียงที่เปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ตลอด ไม่อีกแล้วผมไม่อยากละสายตาจากเขาเป็นครั้งที่สองแน่นอน...


“ทำไมนายถึงไม่ตอบโต้ฉันเล่า คิดว่ายอมให้ฉันต่อยแค่นี้ฉันจะยอมยกโทษให้นายเหรอไงวะ” จียงสบถใส่ผมเสียงดัง ร่างบางเดินมาตะคอกใส่หน้าผมพร้อมกับกระชากคอเสื้อจนยืดผมกล้วว่ามันจะคอย้วยเหมือนกัน


“ปล่อยเถอะ!” ผมบอกคนตรงหน้าเสียงนุ่ม... เพราะว่าเสื้อตัวนี้แพงว่ะ! ผมคิดต่อแบบตลกฝืดในใจ ผมอมยิ้มเมื่อจียงเริ่มกลับมาเป็นจียงคนเดิมที่ปากดีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการยิ้มของผมมันจะทำให้จียงโมโห ซึ่งผมไม่เข้าใจหรือหน้าผมมันกวนโอ้ยหรือยังไง...


“ยิ้ม!! นายยิ้มทำไมวะ” จียงยิ่งกระชากคอเสื้อผมแล้วขยุ้มไว้ซะแน่น ผมเริ่มหายใจไม่ถนัดเอาเถอะแรงเท่ามดตะนอยไม่ทำให้ผมตายหรอก ผมค่อยๆแกะมือจียงออกจากคอเสื้อ แล้วยิ้มให้คนตรงหน้าอีกผมไม่ได้อยากยั่วนะ ...แค่ดีใจที่จียงกลับมาโวยวายเหมือนเดิมได้แล้วเท่านั้นเอง หึหึ


“โว้ยยยไอ้บ้านี่จะยิ้มหาสวรรค์วิมานอะไรวะ!!” จียงยังตะคอกใส่ผมเสียงดัง พลังเสียงนายสุดยอดมากที่รัก ว่าแต่เรามาแรปคู่กันเถอะ! ผมรู้สึกว่ามุมปากตัวเองมันยกขึ้นอีกอย่างกลั้นไม่อยู่ ก็มันอยากยิ้มอ่ะแต่ทำไมจียงถึงโมโหผมเองก็ไม่เข้าใจ ผมจับข้อมือจียงไว้ทั้งสองข้างกางออกห่างจากลำตัวแล้วดึงรั้งจนร่างจียงแนบติดกับผมไปทุดสัดส่วน...จียงที่นิ่งงันไปในตอนแรกเริ่มดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมได้ทีก้มลงสูดกลิ่นกายหอมหวานของเค้าไปเต็มปอดสองมือก็ผละจากข้อมือจียงแล้วมาสวมกอดร่างบางเอาไว้แทน จียงพยายามดิ้นจนเหนื่อยหอบแต่ยังไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดนั้น จียง...ฉันจะไม่ปล่อยนายไปไหนอีกแล้ว!! ผมสัญญากับตัวเอง...


“ปล่อยได้แล้ว!! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะโว้ย” จียงโวยวายใส่ผมอีก “เลิกกอดฉันซักทีขยะแขยง!” จียงกระชากเสียงใส่แต่ผมไม่ได้ถือสาเลยซักนิดกลับส่งยิ้มที่มุมปากให้จียงอยู่อย่างนั้น จียงกระชากตัวออกจากอ้อมกอดผมสำเร็จอันที่จริงเพราะเห็นว่าจียงเหนื่อยแล้วเลยปล่อยให้ไปง่ายๆ จียงเดินไปที่เตียงนั่งลงแล้วเริ่มดึงทึ้งผมตัวเองเหมือนคนเป็นโรคประสาท


“เป็นอะไรไปอีก ฮึ” ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ มือที่ว่างก็ถือโอกาสโอบรอบคอจียงไว้หลวมๆ จียงหันมามองผมตาขวางและได้รับเพียงอาการยักคิ้วให้จากผมเท่านั้นเอง นายอย่าหน้าบูดสิ ทั้งๆ ที่คิดอย่างนี้ในใจแต่ผมก็ไม่ได้พูดแล้วยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง...


“นายมันกวนว่ะ” จียงผลักหัวผมแรงๆ แล้วหันไปนั่งหน้าบูดบ่นงึมงำๆ คนเดียวต่อ เดาว่าคงกำลังสาปแช่งผมอยู่ก็ได้


“ทำไมนายต้องยิ้มแล้วไม่พูดด้วยวะ เวลานายยิ้มแบบนี้เหมือนนายกำลัง พูดว่า...ไอ้อ่อนเอ้ย นายมันโง่ว่ะ!!” จียงดัดเสียงจนแหบใหญ่แต่มันฟังดูตลกมากกว่าเพราะจียงเป็นคนเสียงเล็กผมคิดว่ามันดูน่ารักมากกว่าโหดอ่ะนะ


“ฮ่าๆ นายคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” ผมโยกศีรษะจียงอย่างเอ็นดู จียงเบ้ปากเมื่อผมหัวเราะ แต่เอาเถอะนายกลับมาเป็นเหมือนเดิมแค่นั้นฉันก็ดีใจแล้ว


“พี่ซึงฮะ!!!”เสียงขัดจังหวะของมักเน่ร้องเรียกผมอยู่ข้างนอก ผมกับจียงหันไปมองหน้ากันแล้วยิ้มกับความคิดของตัวเองพวกเราพร้อมใจกันเงียบลงทันที


“เฮ้ย!! หรือว่าพี่ซึงฮยอนฆ่าหมกพี่จียงไปแล้ว”เสียงมักเน่อุทานเสียงดังผมกับจียงขำปู้ดกันทีเดียว “พี่จียงจะตายรึยังเนี่ย” น้านนดูมันแช่งรุ่นพี่ ท่าทางเจ้ามักเน่จะโดนดีจากจียงเร็วๆนี้แน่ หึหึ สมน้ำหน้าอยากมาอ้อนจียงดีนักเจ้าเด็กบ้า


ตึงๆ ตึงๆ


“พี่ซึงฮยอนครับ!! พี่ซึงฮยอนคุณยางให้มาตามแล้วครับ” เสียงทุบประตูแต่เป็นเจ้าแดซองที่ขวัญกล้า ผมกับจียงยังเงียบต่อเพราะอยากแกล้งพวกน้องๆเล่น คงคาใจกันอยู่สินะว่าพวกผมทำอะไรกันอยู่


“เออ!!!!” ผมตะโกนตอบไม่เต็มเสียงนักเพราะขำพวกน้องๆที่คิดเป็นตุเป็นตะไปกันใหญ่ “เดี๋ยวออกไปเอง...”ผมร้องตอบออกไป ผมรอจนเสียงข้างนอกเงียบไปจึงหันมองคนข้างๆ กำลังมองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมลูบแก้มจียงขณะที่เผชิญสายตากับผมนิ่งความรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยจริงจังกับใครเท่าครั้งนี้ ไม่เคยคลั่งไคล้ และอยากครอบครองใครเท่ากับคนตรงหน้ามาก่อน


“จียงนายฟังฉันให้ดีนะ” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ฉันไม่ได้แค้นหรือโกรธนายเลย ไม่ว่าเรื่องอะไร” จียงเลิกคิ้วเหมือนว่าไม่เชื่อที่ผมกำลังบอก “ที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะ...” ผมสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ “เพราะ...ฉันไม่อยากให้นายมีแฟนน่ะ” ผมพูดอ้อมเป็นวงเพราะไม่กล้าบอกจียงออกไปตรงๆ หวังว่านายจะเข้าใจ ผมสบตาจียงหวานฉ่ำแต่จียงยังมีปัญหาเพราะสายที่เต็มไปด้วยคำถาม นั่นแปลว่าจียงไม่ได้เข้าใจที่ผมพูดเลย ให้ตายดิ!


“ทำไมอ่ะ แค่ฉันมีแฟนก่อนนายนี่นายเจ็บใจมากเลยเหรอ” คำพูดของจียงเอ่ยออกมาหลังจากนั้น สุดท้ายนายก็ไม่เข้าใจจริงๆ T^Tเหนื่อยตรูแสดงออกไปซะขนาดนี้


“ไม่ใช่ยังงั้น!! ฉันหมายถึงไม่ว่าก่อนหรือหลังก็ไม่อยากให้นายมีแฟน” เข้าใจมั้ย!! เฮ้อผมแอบกุมขมับ หัวหมุนจริงๆ จียงยิ้มแล้วหัวเราะชอบใจเล่นเอาผมงงเป็นไก่หลงเล้าเลย ผมมองจียงยิ้มแล้วก็หัวเราะชอบอยู่หรอกนะที่จียงเป็นแบบนี้ แต่ผมอยากร้องไห้!! ทำไมนายไม่เข้าใจวะ นายฉลาดที่สุดในกลุ่มแล้วนะเว้ยย...ผมอยากตะโกนใส่แล้วเขย่าๆ ร่างที่กุมท้องตัวงออย่างชอบอกชอบใจอะไรไม่รู้


“ฮ่าๆ ที่แท้นายก็แค่กลัวฉันมีแฟน”จียงปาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาออก “แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ เพราะอะไร...ฉันถึงมีแฟนไม่ได้” จียงวกกลับมาที่จุดเริ่มต้นพร้อมกับสายตาคำถาม


“เฮ้อ!! ช่างเหอะเอาเป็นว่าฉันแค่ไม่อยากให้นายมีแฟนแค่นั้นแหละ”ผมผละจากข้างกายจียงแล้วเดินไปที่ประตูตัดปัญหาทั้งที่ยังยืนหันหลังให้ “แต่ที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะอยากแกล้งหรือทำลายศักดิ์ศรีอะไรของนายหรอกนะ.....” ผมเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ที่ทำไปเพราะฉันอยากทำยังงั้นกับนายจริงๆ” ผมพูดจบก็เดินออกมาจาห้องจียงทันทีคิดแต่ว่าขอให้เจ้าคนหัวดีอย่างจียงเข้าใจซักทีเถอะ เพราะผมคงอายที่จะบอกว่า.........เพราะ

รักนายควอน จียง!!


▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫



หลังจากที่ผมไปพบคุณยาง(กรุณากลับไปอ่านตอนที่แล้ว)ก็กลับมานั่งก่ายหน้าผากคิดไม่ตกว่านี่ผมหลวมตัวไปแล้วใช่มั้ย การที่ต้องห่างจากจียงสามปีผมจะทนได้เหรอ แค่ทุกวันนี้ก็อยากจะคลั่งซะให้ได้ ถ้าผมไม่เห็นจียงในสายตาอีกตลอดสามปีจียงจะไปทำอะไรกับใครที่ไหนบ้างผมไม่มีทางรู้เลย!! เพราะผมไม่เชื่อใจคุณยางหรอก...


เฮ้อ....ผมถอนใจหนักๆ เครียดจนเริ่มปวดหัว เงยหน้าขึ้นมองไปอย่างไร้จุดหมายบาร์เครื่องดื่มดึงดูดให้ผมลุกขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปหามัน ขวดเหล้าสีอำพันส่องประกายงดงามเรียกร้องให้ผมกลืนกินมันลงไปเร็วๆ แก้วเนื้อดีค่อยๆถูกเติมเต็มด้วยสุราชั้นเลิศ ผมคว้าสองสิ่งติดมือกลับไปยังห้องนั่งเล่นจมตัวเองในความคิดกังวลต่างๆนาๆ


สมองเริ่มไม่ทำงานเพราะไม่อยากคิด


จียงๆ...อย่าเพิ่งเป็นของใครนะ


ผมคร่ำครวญในใจมือก็กรอกน้ำเมาลงคอเพื่อดับความทุกข์ในใจที่ทะลักออกมาเหมือนสายน้ำ ร่างกายเหยียดยาวบนโชฟาหรูด้วยแสงไฟสลัวขับกล่อมให้ง่วงงุนในขณะที่สายตาพร่าเลือนและเปลือกตาหนักอึ้งเสียงคนที่ผมเฝ้าคิดถึงก็เดินเข้ามาหา


“ซึงฮยอน! เฮ้ยนายเมาเหรอเนี่ย” จียงทำท่าตกใจที่เห็นผมนอนกอดขวดเหล้าว่างเปล่าแนบอกเหมือนพวกขี้เมา ผมปล่อยขวดใบสวยกลิ้งหล่นออกจากร่างต่อให้กลิ้งหายไปทางไหนผมก็ไม่สนใจ


“นายมาแล้วเหรอจียง” ผมมองคนตรงหน้าหวานเยิ้ม สองแขนพยายามเอื้อมมือออกไปคว้าร่างนั้นมากอด แต่จียงสะบัดหนีราวกับรังเกียจ


“ใช่สินะ!! นายเกลียดฉันนี่” ผมขึ้นเสียงเพราะไม่พอใจที่จียงปฏิเสธอ้อมแขน “ฉันมันเลว ใช่ฉันมันไอ้คนน่ารังเกียจใช่มั้ย!!!” ผมยังโวยวายเสียงดังใส่จียงอยู่เหมือนเดิม จียงส่ายหน้าเตรียมเดินหนีคนเมาอย่างผม ถึงผมเมามากแค่ไหนสติผมยังดีอยู่แน่นอน ผมกระชากจียงกลับมากดใบหน้าตัวเองลงที่ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นสบู่จากผิวกาย ไรผมเปียกชื้นของจียงถูกมือของผมขยุ้มเอาไว้แน่น ผมค่อยๆกลืนกินริมฝีปากเย็นชืดของจียงอย่างหิวโหยทั้งพยายามบดเบียดสอดแทรกราวลิ้นร้อนๆเข้าไปภายในราวกลับจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีก


กึก!.....


“โอ้ยย!!” ผมรีบปล่อยจียงออกเพราะรับรู้ถึงรสเลือดคาวๆ และอาการเจ็บหนึบที่ริมฝีปาก มือยกขึ้นปาดเลือดที่ไหลออกจากแผลของผม เลือดสีเข้มที่ปลายนิ้วทำให้ผมเงยขึ้นมองหมอนั่นเขม็ง


ทำไมจียงต้องปฏิเสธ!!


ทำไมจียงถึงไม่ยอมเข้าใจว่าผมรักเขา...ทำไม


“นายเป็นบ้าอะไรวะ” จียงสบถเสียงดังใส่สายตาดูแคลนของเค้าจับจ้อมผมนิ่ง “นายเมาแล้วก็ไปนอนดีกว่า ทำแบบนี้คนอื่นเค้าเดือดร้อนกันหมด!!” จียงผลักร่าง ผมออกห่างแล้วหันหลังกลับที่บันไดผมรีบตามร่างนั้นไปถึงกลางบันไดเวียน ผมกระชากแขนจียงให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันอีก(ถ้างงกลับไปอ่านตอนที่ซึงรีถ่ายคลิป)


“ปล่อยฉันนะโว้ยย!”เสียงจียงตวาดใส่ผมลั่น ผมซึ่งหายเมาแล้วมองจียงอย่างขอโทษ แต่ดูเหมือนว่าจียงยังไม่มีอารมณ์ให้อภัย ผมเองที่งี่เง่าทั้งที่ตอนหัวค่ำเหมือนบรรยากาศระหว่างเรากำลังจะดีขึ้นแล้วแท้ๆ แต่ท่าทางรังเกียจของจียงยามผมแตะต้องร่างกายทำให้อารมณ์ผมครุกกรุ่นขึ้นมาอีก ทั้งที่ผมไม่อยากทะเลาะกับเขาเลยให้ตายสิ!


“นายจะคุยฉันดีๆไม่ได้เลยหรือไงหา!!” ผมตะคอกกลับเสียงดังอยากให้จียงยอมอยู่นิ่งๆ สักนาทีเพื่อให้เวลาผมสงบจิตใจ ยอมรับว่าตอนนี้ความคิดสติของผมแตกกระเจิงไปหมดแล้ว ตั้งแต่เห็นวันเดินทางนั้นในแฟ้มเอกสารของคุณยาง...สามวันหลังจากนี้ผมต้องไปญี่ปุ่นมันเร็วจนเกินกว่าจะทำใจได้!! แต่ประตูสองบานที่เปิดออกมาดูเหตุการณ์อย่างสนใจเมื่อเจอสายตาข่มขู่ของผมเข้าทั้งแดซองและยองแบต่างก็หดหัวเข้าไปในห้องตามเดิมจียงปล่อยหมัดใส่ผมทีเผลอแต่เพราะผมสายตาไวกว่าจึงยกมือขึ้นกันและเริ่มโมโหคนตรงหน้าที่ไม่ยอมฟังคำขอโทษจากผมดีๆก่อน ผมกระชากข้อมือจียงจนร่างของเราเข้าใกล้กันอีก


“อย่า! ไม่!!!” จียงรู้ถึงชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น จียงสะบัดหน้าหนีผมจึงกระชากไหล่จียงเอาแน่นแล้วซุกใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้งมือที่ยังจับข้อมือจียงไว้แน่นบิดไขว้ไปด้านหลังไม่ให้จียงสะบัดหลุดได้อีก มืออีกข้างจับคางของคนตรงหน้าไว้แน่นสายตาแข็งกร้าวของจียงจับจ้องมองผมอย่างโกรธจัด สมองผมบอกว่าไม่สนแล้วตอนนี้...ผมโน้มใบหน้าตัวเองต่ำลงจนลมหายใจเราสอดประสานเป็นเนื้อเดียวกันริมฝีปากอุ่นบดคลึงไปบนริมฝีปากของจียง ความนุ่มนั้นแทบทำให้ผมเตลิด แล้วกดจูบลึกล้ำพร้อมทั้งสอดแทรกเรียวลิ้นตวัดควานหาความหวานจากคนตรงหน้า ผมเผลอปล่อยมือจียงจนเขาสะบัดหลุดออกได้ง่ายๆ จียงจึงประเคนหมัดลุ่นๆเป็นรางวัลให้ผมก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับเข้าห้องไป ผมปาดนิ้วโป้งกับมุมปากที่เจ็บแปล็บอีกรอบ หึหึ ผมหัวเราะในลำคอให้กับตัวเองยิ้มออกมาเพราะสมเพช ชเว ซึงฮยอน ที่หลงรัก
ควอน จียง เหมือนคนบ้าได้ขนาดนี้ ผมลากสังขารกลับไปที่ห้องอีกครั้งจิตใจหนักอึ้งเจ็บปวดมากเกินจะรับแล้วคืนนี้! ระหว่างทางเห็นมักเน่กำหลบตัวลีบที่หลังแจกันใบใหญ่ในมือกำมือถือไว้แน่นผมเหลือบมองแวบนึงแต่ไม่ได้สนใจเพราะไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครจริงๆ



▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫



แต่ไม่ว่าจะผ่านเวลาเที่ยงคืนมานานแล้วผมก็ยังนั่งแช่อยู่ที่เดิม ผมคิดอยากเดินกลับไปยกเลิกข้อตกลงกับคุณยางอยู่หลายรอบ หากไม่เพราะผมไม่ต้องการเป็นทหารตามที่พ่ออยากให้เป็น จะหนีไปที่อื่นก็ไม่ได้ไม่มีที่ไหนที่อิทธิพลของทั้งสองคนนี้จะเข้าไปไม่ถึงทางเลือกของผมไม่มีเลย ผมได้แต่เลือกการไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นในอีกสามวันข้างหน้า...

จิตใจตกต่ำถึงขีดสุดผมเดินกลับลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรที่แรงกว่ามากล่อมตัวเองให้หลับได้ในคืนนี้ ผมคว้าเอาขวดใสเจียรไนอย่างดีขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วตั้งใจกลับไปมอมตัวเองในห้อง ถอนใจซ้ำๆ เหนื่อยใจแต่ไม่เห็นทางที่จะหลุดพ้นทั้งความรักและความต้องการ


จียง!!!


ร่างจียงของจียงปรากฏขึ้นต่อหน้าผมเหมือนฝัน จียงหายเขาไปในครัวมืดๆ อยู่นาน ผมเพิ่งนึกได้ว่าจียงยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่หัวค่ำพอๆกับผมที่ท้องยังว่างเปล่าแต่กลับมีแอลกอฮอลล์อยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว ผมมองตามร่างจียง มองทุกอิริยาบถ ทุกการเคลื่อนไหว ผมพยายามเก็บสิ่งที่มองเห็นเอาไว้ แล้วบันทึกมันในใจ เวลาที่จากไปผมหวังว่าจะใช้ความทรงจำบรรเทาความคิดถึง


ความทรงจำ...


ความทรงจำงั้นเหรอ!...


ใช่สิ...ความทรงจำที่ผมสร้างมันขึ้นเองได้


คืนนี้


เดี๋ยวนี้...


ผมแสยะยิ้มให้กับความคิดตัวเองวางขวดใบสวยลงที่เดิมของมัน พอแล้วสำหรับของมึนเมาที่ทำให้สติเลือนลาง จากนี้ผมจะทำมันลงไปด้วยสติสมบูรณ์ที่สุด ผมก้าวเดินไปยังด้านหลังของจียงที่กำลังค้นหาของกินภายในตู้เย็นและรู้สึกว่าจะไม่มีอะไรให้กิน ความคิดของผมมีแต่ต้องทำให้จียงเก็บผมเป็นความทรงจำให้นานที่สุด หรืออาจเป็นตลอดชีวิตของเขา...


“เฮ้ย!!!!” จียงอุทานลั่นเมื่อเห็นผมยืนอยู่ด้านหลัง ผมจับจ้องใบหน้าที่กำลังคิดถึงตลอดทุกลมหายใจ อีกสามวันหลังจากนี้จะไม่ได้จ้องมองอีกแล้ว ผมยืนนิ่งแต่จียงหันหลังกลับรีบวิ่งไปที่บันไดผมวิ่งตามจียงกระโดดขึ้นบันไดทีละสองขั้นจนตามทันที่หน้าประตูห้องจียงพอดี


“อย่าเข้ามานะโว้ยย”จียงตะโกนห้ามผมที่แทรกกายเข้าประตูมาแล้วจียงถอยหลังวิ่งอ้อมไปอีกฟากหนึ่งของเตียงหวาดระแวงผมที่ยืนพิงบานประตูนิ่ง


ผมกำลังครุ่นคิด สายตาก็จับจ้องจียงที่ตื่นกลัว


“เป็นอะไรวิ่งหนีทำไม!” ผมแกล้งถามจียงที่หน้าซีดท่าทางราวกับจะวิ่งหนีอยู่ตลอดเวลา


จียงขยับกายอย่างร้อนลนเพราะไม่เข้าใจการกระทำของผม แต่สายตาของผมที่มองจียงคงทำให้เขารู้ตัว ผมเลิกปิดบังความรู้สึกตัวเอง


“นะนายเข้ามาทำไม!!!” จียงตะโกนข้ามเตียงมาถามผม


ผมเดินยิ้มเข้าไปหาจียงที่วิ่งไปจนถึงหัวเตียง แต่ผมก็ยังเดินตามไปหาอย่างใจเย็น สายตายังจ้องที่จียงนิ่ง เหมือนสัตว์ป่าที่หิวโหยกำลังล่าเหยื่อ!!


และจียงคือเหยื่อของผมในคืนนี้


“นายรู้ใช่มั้ยที่ฉันพูดตอนหัวค่ำ” ผมเอ่ยเสียงอ่อนโยน จียงขมวดคิ้วแน่นแล้วเบี่ยงสายตาหนีผม “ฉันทำทุกอย่างเพราะอยากทำ ไม่เคยคิดว่าต้องการแกล้งนายเลยสักครั้งเดียว” ผมถอนใจแล้วเดินเข้าหาจียงทีละนิด “และตอนนี้...”ผมเว้นจังหวะ คอยดูท่าทางตื่นกลัวเหมือนกวางน้อย “ฉันก็จะทำมันอีกแต่เป็นเพราะฉันอยากทำไม่ใช่เมา!! นายเข้าใจใช่มั้ย” ผมถามย้ำกับจียงที่กำลังหาทางหนี นายไม่ได้ฟังฉันเลยมั้ย!!


จียงส่ายศีรษะเร็วๆ เหมือนปฏิเสธ


ไม่ทันหรอก...ฉันตัดสินใจแล้ว(คนเขียนก็ตัดสินใจแล้ว เหอๆ)


จียงเหลือบสายตามองไปที่ประตู และออกวิ่งกระโดดข้ามเตียงไป แต่...ช้ากว่าผมที่ยื่นแขนออกไปคว้าข้อเท้าจียงได้ทัน ร่างจียงล้มคะมำลงบนเตียงพอเหมาะมากๆ ผมยิ้มยินดีที่ไม่ต้องออกแรงลากจียงขึ้นเตียงให้เหนื่อย


“นายเอง...ก็ดูเหมือนจะเต็มใจดีนะ” ผมหยอกคนที่นอนคว่ำอยู่ตรงหน้า จียงพยายามลุกขึ้นแต่ผมชิงทาบร่างลงไปทับเอาไว้ก่อน


“มะไม่นะซึงฮยอน นายที่แท้ก็เป็นโฮโมนี่เอง!!!!” จียงว่าผมเสียงสั่น ผมอยากปฏิเสธใจแทบขาด ตั้งแต่มีอะจึ๋ยครั้งแรกจนตอนนี้ไม่เคยทำกับผู้ชายมาก่อนเลยนะเฟร้ยย...พอลากปลายลิ้นแตะด้านหลังต้นคอขาวๆแทน เม้มริมฝีปากกับผิวด้านหลังนั้นเบาๆ ชิมรสชาติผิวกายที่หอมหวานของคนตรงหน้า


“หึหึ...นายจะว่ายังไงก็ได้เพราะอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ” ผมสอดประสานมือกับร่องนิ้วของจียงกดจมูกสูดกลิ่นหอมหวานจากเส้นผมดำขลับ “แต่รู้มั้ย...ว่านายเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันเกิดอารมณ์ได้นะ” เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหูจียง ผมรู้สึกว่าไรขนของหมอนั่นจะลุกชันขึ้นประท้วงการกระทำของผมแฮะ


“นะนายบ้าแน่ๆ” จียงกระซิบสั่น “นายยังกลับตัวทันนะ ซึงฮยอนนายไม่เสียดายความหล่อเหรอวะ สาวๆกรี๊ดนายจะตายไป” จียงพยายามกล่อมผมอีก อย่าพยายามเลยที่รักความหล่อนี้มีไว้เพื่อนาย


“ขอบใจนะที่ชมที่แท้นายก็ชอบฉันอยู่เหมือนกันนี่” ผมแกล้งไขสือใส่จียง ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักอย่างน่าสงสารผมเลยปล่อยให้ร่างจียงพลิกขึ้นนอนหงาย ใบหน้าซีดและสายตาอ้อนวอนไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนได้อีกแล้ว...ไม่ใช่สำหรับคืนนี้


“ฉันจะกอดนาย...จียง” ผมเอ่ยเสียงแหบพร่า จียงส่ายหน้าปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ จียงดิ้นรนต่อต้านแต่สู้แรงไม่ได้จึงโดนผมคร่อมไว้จียงเม้มปากแน่นไม่ยอมขอร้องผมอีกสายตาแข็งกร้าวเหม่อมองเพดานห้องแต่เลือกที่ไม่มองหน้าผมสินะ


“เหนื่อยแล้วเหรอ” ผมยังกวนไม่เลิก


“ถ้านายทำฉันจะเกลียดนาย!!” จียงขู่เสียงเย็นอย่างสะกดกลั้นถึงขีดสุด ผมที่จับจ้องรายละเอียดบนใบหน้าเนียนนุ่มนั้นอยู่ มือข้างหนึ่งลูบไล้แก้มเนียนอย่างเบามือ เกลี่ยไรผมที่ปรกบังใบหน้าออกเผยให้เห็นคิ้วเข้มเรียวสวยที่กำลังขมวดมุ่น ดวงตายาวรีพร้อมอัญมนีสีนิลที่เบิกกว้างอย่างเคืองโกรธ จมูกเชิดรั้นอย่างคนถือดีในตัวเองอย่างที่สุด ริมฝีปากแดงช้ำเพราะผมที่เป็นผู้กระทำ ทุกที่ๆสายตาผมลากผ่านไปปลายนิ้วจะเคลื่อนตามไปสัมผัสด้วย


“หึหึ...ตอนนี้นายจะเกลียดฉันก็ได้นะ เพราะฉันตัดสินใจแล้วจียง” ผมก้มลงครอบครองริมฝีปากอิ่มที่กำลังจะเปิดอ้าออกประท้วง


“ไม่เอา อ๊ะ อุ๊ฟ...อื้อ” จียงส่งเสียงขลุกขลักในลำคอ ผมกลัวว่าเดี๋ยวจะผ่านคืนนี้ไปกับบทสนทนามากเกินไปเลยเริ่มรุกดีกว่า แม้ริมฝีปากผมจะกดจูบรุกเร้าจียงแต่มือที่ว่างงานผมก็ใช้มันให้เกิดประโยชน์ที่สุด จัดการเลิกชายเสื้อยืดจียงขึ้นจนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนผมคว้าข้อมือจียงที่ประท้วงด้วยการดึงทึ้งร่างของผมออกเอาไว้ ผมรูดเสื้อยืดขึ้นมาจนถึงข้อมือแล้วพันรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่นจียงส่ายหน้าประท้วงจูบและการกระทำนั้นจากผม


“นายไม่ชอบแบบนี้เหรอ...”ผมถามเสียงยานคาง ยิ้มให้จียงที่นอนแผ่อยู่ใต้ร่างผมมองใบหน้าจียงเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตา


“คืนนี้นายร้องไห้เถอะนะ” ผมเกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลรินเป็นทางเปียกแก้มใสๆ


“ร้องไห้เพื่อฉันคนเดียว ฉันจะจูบซับมันให้นายเอง” ผมลิ้มรสน้ำตาเค็มปร่าของจียงจูบซับไปทั่วใบหน้า เปลือกตาทั้งสองและจบลงที่ริมฝีปากอิ่ม จากจูบเนิบช้าหลังจากสอดลิ้นลึกเขาไปมันกลับกระตุ้นเพลิงอารมณ์ให้ลุกขึ้น ความร้อนเผาผลาญสมองจนอื้ออึง ผมอยากสัมผัส อยากกลืนกินจียงเข้าไปทั้งตัวและไม่รอช้าที่จะทำอย่างนั้น


▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น