Baby dont cry

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

BigBang: We belong together...[Dong YoungBae]



BigBang: We belong together...[Dong YoungBae]


▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫


Dong Young Bae : ผมหันกลับไปมองหน้าพี่ซึงฮยอนอีกรอบเมื่อได้ฟังที่พี่เขาพูดจบ พี่ซึงฮยอนที่มีรอยช้ำๆที่มุมปาก สีกำลังสวยพอดีกับที่พี่แกซดแกงเข้าไป...


“ซี้ดดด!!” พี่ซึงฮยอนพึมพำๆ บ่นเรื่องอาการเจ็บปวดตามมาอีก เรื่องนั้นผมไม่สงสัยครับของมันต้องเจ็บก็ม่วงซะขนาดนั้น


“พี่พูดใหม่อีกทีซิครับ...” ผมถามย้ำพี่แกเงยหน้าขึ้นมองประมาณว่า เหนื่อยใจจะพูดแล้วนะ “พี่ผมขออีกรอบ!” ผมวางช้อนตักแกงตั้งอกใจตั้งใจฟังแล้วคราวนี้แต่ขอรีเพลอีกรอบแล้วกัน


“จะไปญี่ปุ่น!!” ดีครับ...ไม่มีคำนำ ไม่มีอารัมพบทพี่ซึงฮยอนบอกว่าจะไปญี่ปุ่น ผมจะรู้มั้ยเนี่ยว่าพี่แกจะไปทำไม ช่างเป็นคนที่สาธยายได้เข้าใจความหมายมากเลยนะครับพี่


“โธ่...พี่ซึงฮยอนครับเอาดีๆ ดิ” ผมละเหนื่อยใจกับพี่ชายคนนี้จริงๆ “เอาแบบละเอียดๆ อ่ะได้มั้ย”


“ไปเรียน” ขอบคุณ...ละเอียดมากผมไม่อยากถามอีกแล้วหันมาหยิบช้อนตักแกงมาซดมั้งดีกว่าเบื่อพี่ซึงฮยอน เหอะ! ถ้าไม่อยากอธิบายจะมาบอกให้ฟังทำไมตั้งแต่ทีแรกฟะ


“อ้าว...ไม่อยากรู้ต่อแล้วเหรอ กำลังสนุก!” พี่ซึงฮยอนสนอกสนใจขึ้นมาเชียวพออย่างนี้เนี่ย ผมแกล้งส่ายศีรษะก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองต่อ


“ฟังหน่อยสิ จะบอกแล้วๆ” ผมเงยหน้ามองพี่ซึงฮยอนเซ็งๆ


“อ่ะ ว่ามาสิ!”


“คือว่า....” พี่ซึงฮยอนอ้ำอึ้ง ผมก็เผลอตั้งใจฟังว่าพี่แกจะพูดอะไรต่อ


“คือแบบว่า....” พี่ซึงฮยอนทำหน้าพยายามนึก


“คือ..”


“พอแล้วพี่ผมไม่อยากฟัง!!!” ผมตัดจบประโยคของพี่ซึงฮยอน สงสัยวันนี้วิญญาณบ้าเข้าสิงเที่ยวแกล้งอำคนอื่นไปทั่ว นึกสงสัยอยู่ว่าแต่ตั้งเช้าๆ แล้วทำไมวันนี้อารมณ์ดี แล้วสีที่ปากนี่เกี่ยวกับภาวะอารมณ์ของพี่ซึงฮยอนด้วยรึเปล่าเนี่ย อันนี้ก็อยากรู้


“โอ๋ๆ ยองแบ” พี่ซึงฮยอนเอามือเท่าใบลานมาโบกง้อผมเหมือนเด็กๆช่างไม่สมดูวัย ผมปัดมือข้างนั้นหนีอย่างรำคาญอะไรกันนักนะ ทีเมื่อกี้ล่ะไม่ยอมบอก ชิส์ คราวหลังไม่เล่าเรื่องเปิ่นๆของจียงให้ฟังเลยนิ


“นายอย่าขี้งอนสิ โตเป็น....แล้วนะ” เอ๊ะ! ที่เว้นไว้หมายความว่าไงครับพี่ผมไม่อยากเดา ผมมองตาขวางพี่ซึงฮยอนหัวเราะงอหาย เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ


“นะๆ เดี๋ยวจะบอกแล้วเนี่ย จริงๆ” พี่ซึงฮยอนย้ำ แล้วเอื้อมมือมาลูบศีรษะผมเล่นพอจะปัดมือออกเสียงตะคอกก็ดังลั่น


“พี่ซึงฮยอนนนน!!!” ซึงฮยอนน้อยนั่นเองเห็นแล้วจะตะโกนทำซากอะไรครับที่รัก น้องน้อยใช้ตากลมโตเบิกกว้างมองพี่ซึงฮยอนเขม็ง ริมฝีปากแดงระเรื่อเม้มแน่น ริมฝีปาก!...เดียวกันกับที่ผมได้สัมผัสไปเมื่อคืนนี้


ตุ้บๆ ตุ้บๆ


แค่คิดใจก็จะกระดอนออกมาเต้นอาร์แอนด์บีข้างนอกแล้วครับ เด็กอะไรไม่รู้น่ารักน่าชังจริงๆ ผมกลืนข้าวไม่ลงเป็นปลื้มบวกตื่นเต้นแปลกๆ ยิ่งเห็นใบหน้าใสกระเง้ากระงอดใส่พี่ซึงฮยอนแล้ว โอยย แทบละลาย พอแล้วน้องเล็กพี่ทำใจไม่ได้!


“อะไรของนายเสียงดังไปแล้ว” พี่ซึงฮยอนหันกลับไปทำเสียงเข้มใส่ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังปัญญาอ่อนกับผมอยู่เลยเปลี่ยนอารมณ์อย่างไวอ่ะ


“อ่า...พี่ซึงฮยอนอย่าจับดิ เนี่ยๆ ของผมนะ” เอ๋อ...ปลายนิ้วที่ชี้มาทางผมของซึงฮยอนน้อยหมายความว่าไงเนี่ย ‘ของผม’ งั้นเหรอหมายถึงตัวผมใช่มั้ยครับ ช็อคๆ


“ห๊ะ!! นี่อ่ะเหรอ”พี่ซึงฮยอนชี้มาทางผมบ้าง เฮ้ยคนนะอย่าจิ้มแบบนี้ดิ ผมปัดมือพี่ซึงฮยอนออกจากใบหน้าตัวเอง


“เล่นไรกันเนี่ย” ทั้งที่หน้าร้อนผ่าว แต่ผมกลับพูดใส่ทั้งสองคนเสียงแข็ง ซึงฮยอนเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ แทบจะเกยมานั่งตักเข้าแล้ว


ตุ้บๆ ตุ้บๆ


เสียงหัวใจไม่รักดีก็เต้นต้อนรับซึงฮยอนที่ยื่นศีรษะมาพิงที่ไหล่ ปากแดงยื่นๆอย่างน่ารักใส่พี่ซึงฮยอน พอแล้วครับซึงฮยอนน้อยของพี่ พี่ยองแบจะหัวใจวายย


“ก็ใช่นะสิ พี่ยองแบเป็นของผมแล้วนะ” ซึงฮยอนน้อยพูดเสียงดังฟังชัดมากผมเงียบพี่ซึงฮยอนนิ่งค้างในท่าที่กำลังจะยกซด


เคร้ง!!!!


ผมทำช้อนตักแกงร่วงลงในชามข้าว ซึงฮยอนน้อยนายพูดอะไรออกไป พี่จำไม่ได้ว่าไปเป็นของนายตั้งแต่ตอนไหน หรือนายจะลักหลับพี่!!!


“เฮ้ยยย พูดอะไรเนี่ย” ผมรีบผลักหัวน้องน้อยออกไปจากไหล่ตัวเองเพราะความตกใจ ซึงฮยอนน้อยทำหน้าย่นใส่ผม

“ล้อเล่นอะไรบ้าๆ” ผมเตรียมจะลุกหนีวงสนทนาที่กระอักกระอ่วนใจแบบนี้ พี่ซึงฮยอนจ้องเขม็งสลับไปมาระหว่างใบหน้าของผมกับใบหน้าของซึงฮยอนน้อย อย่าจ้องแบบนั้นครับพี่ไม่มีอะไรจริ๊งๆ ผมสั่นศีรษะทันทีเมื่อโดนสายตาคาดคั้นจับผิดจากพี่ใหญ่ซึงฮยอน


“พี่ยองแบจะไม่รับผิดชอบเหรอ ก็ที่เมื่อคืนเรา อุ๊บ!!!” ผมรีบเอามือตะปบลงบนปากนุ่มๆนั้นทันที


“มะไม่มีอะไรครับ แหะๆ” ผมหันไปบอกพี่ซึงฮยอนที่มองตามผมตาขวาง ผมเปล่าล่อลวงเด็กนะครับ


“อึก อือๆ” ซึงฮยอนน้อยพยายามแกะมือผมออก ผมไม่รอให้พี่ซึงฮยอนซักฟอกที่นี่หรอกครับจัดการลากน้องเล็กออกไปข้างนอกทันที ซึงฮยอนที่ดิ้นๆอยู่ก็หยุดดิ้นไปดื้อๆ ผมเลยปล่อยมือ


“ทำไมไปพูดเล่นแบบนั้น” ผมหันไปดุน้องน้อยที่หน้าบูดทำปากยื่นน่ารักๆใส่ผม หมั่นใส้เลยดึงเล่นซะเลย นิ่มจัง


“โอ๊ย!! พี่ยองแบเจ็บนะฮะ” ซึงฮยอนน้อยโวยวาย ความนุ่มยังติดอยู่ที่มือของผมอยู่เลย นี่แค่โดนที่มือนะ ถ้าเป็นปากกับปากละก็....


“อะ ขะขอโทษทีแรงไปหน่อย...แต่คราวหน้าอย่าไปพูดเล่นแบบนี้อีกนะ เข้าใจมั้ย!” ผมหันไปสั่งสอนต่อซ่อนอาการเขินด้ยการตีหน้าขรึม


“ไม่ได้พูดเล่นซักหน่อย ก็เมื่อคืนอ่ะเรายังจูบกันอยู่เลย” เฮ้ย!! ซึงฮยอนพูดออกมาด้วยท่าทางสบายๆ ผมนี่อายหน้าร้อนไปหมดแล้ว


“ผมจูบพี่ยองแบแล้วพี่ต้องเป็นของผมคนเดียวด้วย” ซึงฮยอนพูดประโยคช็อคโลกให้ผมอีกประโยค


“ซึฮยอนฟังพี่” ผมตั้งสติสองมือเอื้อมไปคว้าจับไหล่ของซึงฮยอนเอาไว้แน่นๆ บีบเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นเตือนให้น้องเล็กตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมจะพูด


“การจะที่เราจะเป็นของกันและกันได้น่ะมั้นต้อง...”ผมสูดเอาอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด “มันต้อง...แบบว่า...เอ่อ...” เริ่มคิดหาคำพูดมาอธิบายแบบไม่โจ่งแจ้งอีโรติกเดี๋ยวจะโดนแบนเอาง่ายๆ “ยังไงดีล่ะ...แบบว่า”ผมยังนึกไม่ออก


“ง่า...พี่ยองแบจะพูดไรเนี่ย ผมฟังไม่เห็นเข้าใจซักนิด” ซึงฮยอนน้อยขมวดคิ้ว “ก็เพื่อนที่โรงเรียนเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานจูบกับแฟน อีกไม่นานแฟนเค้าก็ต้องเป็นของเค้าคนเดียว!!” ซึงฮยอนอธิบาย เฮ้อ...นายไปฟังเพื่อนคนไหนมาฟระ


“ผมรู้ๆ พี่ยองแบจะบอกว่าเราต้องทำเหมือนที่พี่ซึงฮยอนทำกับพี่จียงใช่มะ อันนั้นมันอยู่ในขั้นซีไม่ใช่เหรอ??” ซึงฮยอนพูดออกมาผมงี้ลืมไอ้ที่คิดจะพูดไปหมด


“ขะขั้นซี นายไปจำจากที่ไหนมาเนี่ย!!!”


“ก็เพื่อนไงบอกว่า จูบก็คือขั้นเอใช่มะจากนั้น สัมผัสร่างกายก็คือขั้นบี ส่วนขั้นซีคือ...อุ๊บ” ผมรีบเอามือปิดปากซึงฮยอนน้อยเอาไว้ก่อน ไม่ไหวครับเด็กสมัยนี้ทำเอาผมใจจะวายวันๆ คุยแต่เรื่องพวกนี้กันเหรอที่โรงเรียนเนี่ย


“อะเอาเถอะ” ผมถอนใจอีก “อย่าเอาไปพูดอีกก็แล้วกัน” ซึงฮยอนมองผมแบบไม่เข้าใจ เอียงหน้าใสกิ๊งในมุมสี่สิบห้าองศา พองแก้มเข้าไปพอประมาณ ปากแดงๆยื่นออกมาจน....ใจผมจะวายยย น่ารักมากมาย มือที่บีบแน่นที่ไหล่ก็กลายเป็นลูบไล้เบาๆแทน มะมันเอ่อ เกินจะห้ามใจคนอะไรไม่รู้น่ารัก


“ก็พี่เป็นของผมจริงนี่ฮะ” แน่ะๆ ยังไม่เลิกพูดเดี๋ยวทำให้เป็นจริงๆซะนี่ แต่ซึงฮยอนน้อยนะที่จะเป็นของพี่ผมนึกต่อในใจ มือก็เริ่มเลื่อยไปที่ใบหน้าเนียนใส แอบยิกแก้มนิ่มๆแถมด้วยการไล้ปลายนิ้วเบาที่ริมฝีปาก สวรรค์อยากแปลงร่างครับผม อารมณ์แบบหวิวๆ ลอยๆ ชอบกล


“ทำไมนายอยากเป็นของพี่เหรอ” ผมกลั้นใจถามออกไป ใจลุ้นระทึกจ้องตากลมโตของซึงฮยอนน้อยนิ่ง


“ไม่ใช่...พี่ตากห่างที่เป็นของผมแล้วนะฮะ” เฮ้อ...ยังไม่เลิก สงสัยว่าซึงฮยอนไม่ได้เข้าใจจริงๆ เหอๆ ผมลดมือลง


“อืม...พี่เป็นของนายคนเดียว นายด้วยนะ” ผมบอกซึงฮยอนซึ่งยิ้มแก้มปริอยู่ตรงหน้า


“ดีครับๆ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ทำพี่เหมือนกับที่พี่ซึงฮยอนทำพี่จียงมั่งอ่ะ” ซึงฮยอนถามคำถามที่ทำให้ผมอึ้งไปนาน แววตาระยิบระยับ วับวาว แบบแปลกๆ นั่นทำเอาใจผมสั่นไหว


“ทะทำยังไง...” ผมแกล้งถาม


“ก็.......................................” ซึงฮยอนน้อยเล่าเป็นฉากๆ เลือดลมพลุ้งพล่าน พาลหน้ามืดตาลาย ซึงฮยอนอยากให้ผมเป็นเคะ!!! ผมฟังไปส่ายหัวไปลูกเดียว นึกในใจว่าไม่ได้ๆ


“ซึงฮยอนฟังพี่...” ผมยกมือขึ้นจับไหล่คนตรงหน้าอีก พยายามทำหน้าจริงจัง


“นายเป็นเมะไม่ได้หรอกนะ” ผมเอ่ยเสียงเข้มใส่


“ทำไมอ่า.............” ซึงฮยอนออกอาการโวยวายเล็กน้อย สองคิ้วขมวดยื่นปากใส่ผม


“เพราะ.....นายอายุน้อยกว่าน่ะสิ” ผมตอบแบบเอาสีข้างเข้าถู อยากร้องไห้แต่คงไม่มีคำตอบที่ดีกว่านี้แล้ว”คนที่เป็นเมะได้ต้องแก่กว่าเท่านั้น ส่วนคนอายุน้อยกว่าต้องเป็นเคะ”ซึงฮยอนนิ่งคิด


“นั่นสินะ...” ซึงฮยอนทำท่าว่าเริ่มเข้าใจสิ่งที่ผมบอก (แกหลอกน้องเค้ายองแบ : บุ๋มบิ๋ม) แล้วทำหน้าเครียดเหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่างอยู่


“เฮ้อ...ถ้าอย่างนั้น” คำพูดที่เหมือนปลงตกของน้องน้อยทำเอาผมโล่งใจสุดๆ แอบยิ้มไว้ที่มุมปาก


“ผมคงเป็นของพี่ยองแบไม่ได้แล้วล่ะครับ” ซึงฮยอนช็อคผมอีกรอบ


“หา.....นายว่าไงนะ” ผมตะโกนใส่อย่างลืมตัว “ทำไมเป็นงั้นล่ะ เมื่อกี้นายยังอยากเป็นของพี่คนเดียวอยู่เลย” ผมโวยวายใส่น้องเล็ก


“ก็พี่ยองแบอ่ะ...อายุมากกว่าผมน่ะสิ” ผมเริ่มมองเห็นอะไรลางๆ ซึงฮยอนทำสีหน้าจริงจังมากๆ


“ขอโทษนะครับพี่ยองแบ...ที่ผมรับผิดชอบพี่ยองแบไม่ได้แล้ว” ซึงฮยอนก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ผมมองอึ้งๆ นี่น้องเล็กกำลังคิดเพี้ยนๆ อะไรอีก


“ผมไม่อยากเป็นเคะ จะให้พี่ยองแบเป็นเคะก็ดันแก่กว่าอีก...เฮ้อเราคงเป็นของกันและกันไม่ได้แล้วครับฮยอง” ซึงฮยอนเอ่ยเสียงเศร้า


“นะนาย...ซึงฮยอน...” น้องเล็กกดปลายนิ้วปิดปากผมสะกัดคำพูดเอาไว้ ส่านศีรษะน้อยๆ ดวงตาฉายแววเศร้า


“ผมควรจะห้ามใจตัวเองเมื่อคืน...ผมไม่ควรทำแบบนั้น(จูบ)กับพี่ ผมขอโทษครับพี่ยองแบ...” ซึงฮยอนพูดเสร็จก็เดินกลับเข้าไปด้านใน ผมที่ยืนอยู่ที่ประตูหลังได้แต่ยืนแน่นิ่งทบทวนความจำอยู่ลำพัง


ซวย...นี่เราพูดอะไรออกไปวะ!!!!


ผมหันหน้าเข้าหากำแพงแล้วโขกศีรษะโป๊กๆ เหมือนคนบ้า เพราะความโง่ของตัวเองแท้ๆ เชียว...


▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫B♂gB♫ng▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫▫